การได้ยินนั้นเป็นอีกหนึ่งในเรื่องที่สำคัญอย่างมาก และ เชื่อว่าหลากหลายคนนั้นก็กำลังเป็นพ่อแม่มือใหม่ด้วยเช่นกัน ซึ่งในเรื่องของการได้ยินนั้นเป็นอีกหนึ่งในเรื่องที่สำคัญอย่างมาก ที่เรานั้นไม่ควรที่จะมองข้าม พอๆ กับการมองเห็นเลยก็ว่าได้ และ ที่สำคัญนั้น เรานั้นควรที่จะหมั่นส่งเกตุพฤติกรรม และ เรื่องของ การหมั่นเฝ้าดู เรื่องของการได้ยินของลูกน้อยของเราด้วยว่ามีความบกพร่องหรือไม่ หรือ มีปัญหาทางการได้ยินหรือไม่  ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกเรื่องนี้กัน  

หูตึงพบได้บ่อยแค่ไหน  

หูตึงนั้นเป็นหนึ่งในอาการที่สามารถพบได้ค่อนข้างง่าย และ ที่สำคัญนั้นยังเป็นอาการท่าสามารถที่จะพบได้ทั่วโลกเลยก็ว่าได้ ซึ่งหูตึงนั้นสามารถที่จะพบเจอกับเด็กทารกแรกเกิดได้นั้น ใน 1,000 คน นั้นจะสามารถที่จะพบและเจอได้ 1-3 ขึ้น และ ที่สำคัญนั้นจะสามารถที่จะพบได้มากขึ้น 10-20 เท่าหากว่ามีปัจจัยเสียง และที่บกพร่องทางการได้ยิน หรือปัจจัยเสี่ยงที่อาจจะเกิดภาวะหูไม่ได้ยิน  

อะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด “หูตึง”  

หูตึงนั้นเป็นอากาที่สามาพบและเจอได้ง่ายในทารกแรกเกิด และ ที่สำคัญนั้นมีหลากหลายสาเหตุอย่างมากไม่ว่าจะเป็น การถ่ายทอดทางพันธุกรรม หรือ ความผิดปกติของหู ความผิดปกติของใบหน้า และ ศีรษะตั้งแต่กำเนิด หูชั้นใน หรือ กลาง เกิดการอักเสบ และ ยังมีปัจจัยภายนอกอีกหลากหลายอย่างมากด้วยเช่นกันที่จะทำให้เกิดภาวะหูไม่ได้ยิน หรือ หูตึง  

สังเกตุอย่างไรว่ามีปัญหาทางการได้ยินหรือไม่  

โดยส่วนใหญ่แล้วการได้ยินนั้นเป็นอาการของความพิการแบบซ่อนเร้น ดังนั้นการสังเกต และ การจับตาดูนั้นจึงทำได้ยากอย่างมาก  ดังนั้นการที่จะตรวจสอบว่าลูกกน้อยองเรานั้นมีอาการผิดปกติ หรือ พิการทางการได้ยินหรือไม่ นั้นเราสามารถที่จะพาลูกน้อยเข้าไปรับการตรวจ และ ทดสอบการได้บิน โดยใช้เครื่องตรวจการได้ยิน ที่มีเทคโนโลยีที่ใหม่ ทำการตรวจคัดกรอง ที่สามารถที่จะทำได้ง่าย และ ปลอดภัย ไม่มีอาการเจ็บ หรือ ปวด และจะทำให้ทราบด้วยว่าลูกน้อยของเรานั้นมีการได้ยินที่ปกติหรือไม่  

ขั้นตอนการรักษา  

การรักษานั้นอาการหูหนวกนั้นสามารถที่จะรักษาได้ 2 วิธีที่จะเป็นทางเลือกในการรักษาและเป็นตัวเลือกที่จะทำให้กลับมาได้ยินอีกครั้ง   โดยจะแบ่งเป็น 2 กรณีคือ หากว่าเกิดจากโรคของหูชั้นนอกและ หูชั้นกลางนั้นสามารถที่จะรักษาได้ด้วยยา หรือ การผ่าตัด แต่ว่าถ้าหากว่า เกิดจากโรคหูชั้นใน หรือประสาทหูแล้ว จะมีวิธีในการรักษานั้นคือ  

• การผ่าตัดฟังประสาทหูเทียม  
• การฟื้นฟูสมรรถภาพการได้ยิน  เช่นเครื่องช่วยฟัง  

การตรวจสอบสุยภาพทางการได้ยินตั้งแต่อายุยังน้อยจะช่วยให้เรานั้นได้ทราบถึงปัญหาของการได้ยินของลูกน้อย และ สามารถที่จะรับมือ และ ป้องกันได้อย่างรวดเร็ว เพราะว่าหากว่าทดสอบทางการได้ยินและพบถึงปัญหา ยิ่งเด็กมากเท่าไหร่ การรักษาได้เร็วนั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ดีมากยิ่งขึ้นด้วยเช่นกัน